ประวัติแบดมินตัน
การเล่นแบดมินตันได้เข้ามาสู่ประเทศไทยในราวปี พ.ศ. 2456 โดยเริ่มเล่นกีฬาแบดมินตันแบบมี ตาข่าย โดยพระยานิพัทยกุลพงษ์ ได้สร้างสนามขึ้นที่บ้าน ซึ่งตั้งอยู่ริมคลองสมเด็จเจ้าพระยาธนบุรี แล้วนิยมเล่นกันอย่างแพร่หลายออกไป ส่วนมากเล่นกันตามบ้านผู้ดีมีตระกูล วังเจ้านาย และในราชสำนัก การเล่นแบดมินตันครั้งนั้น นิยมเล่นข้างละ 3 คน ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2462 สโมสรกลาโหมได้เป็นผู้จัดแข่งขันแบดมินตันทั่วไปขึ้นเป็นครั้งแรก โดยการจัดการแข่งขัน 3 ประเภทได้แก่ ประเภทเดี่ยว ประเภทคู่ และประเภทสามคน ปรากฏว่าทีมแบดมินตันบางขวางนนทบุรี (โรงเรียนราชวิทยาลัยบางขวางนนทบุรี) ชนะเลิศทุกประเภท นอกจากนี้ มีนักกีฬาแบดมินตันฝีมือดีเดินทางไปแข่งขันยังประเทศใกล้เคียงอยู่บ่อยๆ
กติกาของกีฬาแบดมินตัน
แบดมินตัน เป็นกีฬาชนิด หนึ่ง ที่ใช้ไม้ตีลูก ลูกสำหรับใช้ตีนั้น เรียกกันมาช้านานว่า “ลูกขนไก่” เพราะสมัยก่อนกีฬานี้ใช้ขนของไก่มาติดกับลูกบอลทรงกลมขนาดเล็ก ปัจจุบันลูกขนไก่ผลิดจากขนเป็ดที่คัดแล้ว ลูกบอลทรงกลมขนาดเล็กที่ทำเป็นหัวลูกขนไก่ทำด้วยไม้คอร์ก ราคาลูกขนไก่ที่ใช้ในการแข่งขันจะอยู่ที่ประมาณลูกละ40-50บาท
กีฬา แบดมินตันจะแบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่าย และแบ่งการแล่นออกเป็น 2 ประเภท คือ “ประเภทเดี่ยว” แบ่งผู้เล่นออกเป็นฝ่ายละ 1 คน และ “ประเภทคู่” แบ่งผู้เล่นออกเป็นฝ่ายละ 2 คน การเล่นรอบหนึ่งเรียกว่า 1 แมทช์ แมทช์ละ 3 เกม(บางคนเรียกเซ็ท) ตัดสินแพ้ชนะ2ใน3เกม มีกำหนดคะแนนสูงสุด 21 คะแนน ฝ่ายใดทำคะแนนได้ถึง 21 คะแนนก่อนจะเป็นผู้ชนะในเกมนั้น
การเก็บลูกขนไก่
- ให้หัวมันหันเข้าหาตัว แล้วตวัดขึ้นมือเบา ๆ แล้วจับลูกขึ้นมา
การเดาะลูกแบต
- ลูกโยนหน้ามือ
แรงที่ตีเกิดจากการประสานงานของแรงที่เหวี่ยง แรงตวัด การสะบัดของลำแขนข้อมือจังหวะฟุตเวิร์คที่ถูกต้อง บวกกับการเปลี่ยนน้ำหนักตัวจากเท้าหลังไปสู่เท้าหน้า โดยที่แรงตีที่ผ่านแร็กเก็ตไปสัมผัสลูกในช่วงวินาทีที่ถูจังหวะจะโคน รวมแรงดีด ผลัก ดันให้ลูกพุ่งสูงโด่งไปยังสนามตรงข้าม ตามเป้าหมายที่ต้องการ - ลูกโยนหลังมือ
แรงตีเกิดจากการ ประสานงานเช่นเดียวกันกับ การตีลูกหน้ามือ แต่การวางฟุตเวิร์คสลับกันและไม่มีแรงที่โถมที่มาจากการเปลี่ยนน้ำหนักตัวจากเท้าหลังไปสู่เท้าหน้า แรงตีลูกหลังมือเกือบทั้งหมดจึงมาจากแรงเหวี่ยง แรงตวัด และการสะบัดลำแขน กับข้อมือเท่านั้น โดยเหตุที่การตีลูกหลังมือ แหล่งที่มาของแรงตีลูกมีจำกัด แรงเหวี่ยง แรงตวัดของลำแขนที่มาจากหัวไหล่ กับแรงที่เกิดจากการสะบัดข้อมือ จึงจำเป็นต้องประสานงานสอดคล้องกันอย่างกลมกลืนเป็นจังหวะเดียวโดยทฤษฎีแล้ว ลูกหลังมือน่าจะเป็นลูกรับสำหรับแก้ไขสถานการณ์มากกว่าเป็นลูกบุกแต่ถ้าฝึกตีลูกให้แรงและมีความคล่องแคล่วชำนาญ จะกลายเป็นการตีลูกที่ผู้เล่นสามารถสร้างเขี้ยวเล็บให้แก่การตีลูกหลังมือของตนกลายเป็นการเล่นเชิงรุก ได้จังหวะของการดีด สะบัดข้อมือที่กระทำได้ในเสี้ยววินาทีกับแรงเหวี่ยงของแร็กเก็ตอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้เล่นสามารถพลิกโฉมจากการเกมรับเป็นเกมรุกได้ในบัดดล เพียงแต่บิดหน้าแร็กเก็ต เปลี่ยนจุดเป้าหมายการตี ลูกก็จะวิ่งไปอีกทางหนึ่ง ทำให้ผู้เล่นสามารถสร้างสัดส่วนของการเล่นลูกหลอก ได้อย่างแพรวพราวด้วยลูกหลังมือ ไม่ว่าจะเป็นลูกโยนหลังมือกระแทกไปมุมหนึ่งมุมใดของสองมุมหลัง หรือแตะหยอดด้วยหลังมือขนานเส้น หรือทแยงมุมก็สามารถจะทำได้
วิธีการเก็บรักษาไม้แบดมินตัน
- 1. ควรหลีกเหลี่ยงบริเวณที่มีแสงแดดจัด หรือมีอุณหภูมิ ตั้งแต่ 40 องศาขึ้นไป เพราะจะมีผลต่อเฟรมของไม้ อาจเกิดการโค้งงอได้ เอ็นเสื่อม เอ็นกรอบ ได้
- 2. ไม่ควรวางของที่มีน้ำหนักมากกดทับ ไม้แบดมินตัน
- 3. หลังจากเล่นเสร็จ ควรทำความสะอาดไม้แบดมินตันด้วยผ้าสะอาด ชับตรงบริเวณด้ามจับ หรือเช็คบริเวณที่มีคราบเหงื่อไคลที่เปื้อน
- 4. ถ้าเป็นไปได้ ตอนซื้อไม้แบดมาครั้งแรก ไม่ควรลอกพลาสติกตรงด้ามจับออก เพราะเนื่องจากบางคนที่มีเหงื่อออกมากๆ จะทำให้เหงื่อไหลซึมเข้าไปบริเวณด้ามจับ และยิ่งถ้าเราไม่เช็คด้ามจับหลังเล่นเสร็จ ก็อาจเกิดการสะสมของคราบเหงื่อไคล และนำไปสู่การแตกหักบริเวณด้ามจับ เพราะเนื่องจากด้ามจับเป็นไม้
- 5. เมื่อเอ็นขาด เราควรทำการตัดเอ็นทิ้งโดยทันที เพราะถ้าไม่ตัดเอ็นแล้ว เฟรมของไม้อาจการเกิดการบิดเบี้ยวได้
วิธีการเพิ่มความทนให้ลูกขนไก่แบดมินตัน
นักกีฬาที่เล่นแบดมินตันมาเป็นเวลานานต่างรู้ว่าจำนวนเงินที่เราจ่ายใช้เพื่อเล่นกีฬาแบดมินตันมากที่สุดคือ รองเท้า ไม่ก็ไม้แบดมินตัน ถ้าคุณซื้ออุปกรณ์แบดมินตันที่มีคุณภาพ ปกติแล้วจะสามารถใช้ได้เป็นเวลานาน ถ้าคนที่ดูแลอุปกรณ์ดีๆแล้ว ไม้แบดมินตันบางคนสามารถใช้ได้ถึง 5 ปีโดยไม่มีปัญหาใดๆ
สำหรับลูกขนไก่(ลูกแบดมินตัน) มันเป็นอุปกรณ์ที่พังง่ายมากเมื่อเทียบกับไม้แบดหรือรองเท้าแบด แค่ขนไก่หลุดไปแค่ขนเดียวเวลาตีมันจะแกว่งทำให้เราก็ไม่สามารถใช้ได้แล้ว หรือลูกขนไก่บางยี่ห้อถ้าผลิตมาไม่ดี ถ้าเราเอาไปใช้บางลูกก็จะพุ่งเร็วเกินไป บางลูกก็จะตื้อเกิน(วิ่งช้า) เนื่องจาก ขนไก่(หรือขนเป็ด,ขนห่านที่ใช้ในการผลิต) นั้นมีความบางมากทำให้เวลาตีลูกขนจึงหักง่าย ดังนั้นเราจึงค้นคว้าหาวิธีการเพิ่มความทนทานของลูกขนไก่
การจับลูกแบดมินตัน
เมื่อรู้ถึงวิธีการจับไม้แล้วต่อไปก็ต้องรู้ถึงการจับลูกขนไก่ซึ่งเป็นอุปกรณ์ประกอบการเล่นกีฬาแบดมินตัน การจับลูกขนไก่มีความสำคัญอย่างมากในการเสิร์ฟลูก
การจับลูกขนไก่ที่นิยมกัน มี 3 วิธีคือ
1.จับที่หัวไม้คอร์กของลูก โดยใช้นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ และนิ้วกลางจับลูก
2.จับที่ปลายขนไก่ด้านในของลูกโดยใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้
3.จับโดยการวางลูกอยู่บนฝ่ามือ
วิดีโอ
แหล่งที่มา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก thaibadminton.com
ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.oknation.net
ขอขอบคถณรูปภาพจาก sites.google.com
ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.bloggang.com
ขอขอบคุณวิดีโอจาก https://www.youtube.com/watch?v=C7-_VnC8Zok
ขอขอบคุณรข้อมูลจาก https://batmint.wikispaces.com/